เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งทันตกรรมที่เคยได้ยินกันบ่อยครั้งกับการจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกร ซึ่งเป็นวิธีการรักษาและแก้ไขปัญหาฟันที่ทันตแพทย์จะพิจารณาไปในแต่ละกรณีเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งการจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกรจะสามารถช่วยให้มีความมั่นใจในการยิ้มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำงาน เพราะรอยยิ้มจะช่วยสร้างความประทับใจในครั้งแรกที่พบเจอได้
ทำไมต้องผ่าตัดขากรรไกร
การผ่าตัดขากรรไกร เป็นรูปแบบของการแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกร และแก้ไขปัญหาหน้าเบี้ยว คางยื่น หรือการสบฟันผิดปกติ และความผิดปกติของรูปหน้าอื่น ๆ ที่การจัดฟันอย่างเดียวไม่สามารถทำได้อย่างครอบคลุม ซึ่งทันตกรรมรูปแบบนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันของทันตแพทย์จัดฟันและทันตแพทย์ผ่าตัดช่องปากและกระดูกขากรรไกรเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธืภาพมากที่สุด
ลักษณะที่ควรผ่าตัดขากรรไกร
เนื่องจากไม่ใช่ทุกกรณีที่จะต้องมีการผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน ลักษณะของคนที่ควรผ่าตัดขากรรไกรร่วมด้วย ได้แก่
- ขากรรไกรบนยื่นออกมามาก
- ริมฝีปากอูมมากผิดปกติ
- คางยื่น คางสั้น หรือคางถอย
- ขากรรไกรล่างยื่น หรือฟันหน้าล่างคร่อมฟันบน
- หน้าเบี้ยว
- ยิ้มเห็นเหงือกเยอะ หุบริมฝีปากไม่ได้
- นอนกรน หรือมีอาการหยุดหายใจในขณะหลับ
วิธีจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร
การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร สามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่
1. จัดฟันก่อนผ่าตัดขากรรไกร
สำหรับวิธีการนี้จะใช้เวลาในการจัดฟันอย่างน้อย 1-2 ปี เพื่อให้ฟันมีการเรียงตัวอย่างเหมาะสมก่อน หลังจากนั้นจะทำการผ่าตัดขากรรไกร และหลังจากการผ่าตัดก็อาจจะต้องจัดฟันต่อเป็นระยะเวลา 6 เดือนจนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากทันตแพทย์
2. ผ่าตัดขากรรไกรก่อนจัดฟัน
สำหรับวิธีการนี้จะสามารถลดระยะเวลาในการจัดฟันลงได้ประมาณ 6-12 เดือน โดยจะทำการผ่าตัดขากรรไกรให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงจะเริ่มจัดฟัน ซึ่งจะเป็นวิธีการที่จะสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะสบฟันผิดปกติจากการจัดฟันได้อีกด้วย
(อ่านเพิ่มเติม: ผ่าตัดขากรรไกร ราคาเท่าไหร่ ต้องทำร่วมกับจัดฟันไหม)
ข้อดีของการจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกร
การจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกรมีข้อดี ดังนี้
- สามารถแก้ไขความผิดปกติของตำแหน่งของฟันบนและขากรรไกรได้ ไม่ว่าจะเป็น การเรียงตัวฟันหน้า ฟันหลัง และการสบฟันให้เหมาะสม
- สามารถแก้ไขและปรับปรุงโครงหน้าที่มีความผิดปกติ ให้มีสัดส่วนที่สวยงาม
- ทำให้ฟันมีการสบกันปกติ และสามารถเคี้ยวอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ทำให้ออกเสียงได้ชัดเจนและถูกต้องมากยิ่งขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต และเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น
การผ่าตัดขากรรไกรเจ็บหรือไม่
โดยปกติแล้วการผ่าตัดขากรรไกรจะเป็นการผ่าตัดแบบการดมยาสลบ ในระหว่างผ่าตัดจึงจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังจากการผ่าตัดอาจจะรู้สึกเจ็บหรือปวดได้ ซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการรับความสามารถในการรู้สึกและการทนต่อความเจ็บของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน แต่จะมีการจ่ายยาบรรเทาอาการปวดให้หลังจากการผ่าตัด และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นในระหว่างการพักฟื้น
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด
หลังจากการผ่าตัดขากรรไกรจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3-5 วัน ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงหรืออาการ ดังนี้
- อาการปวด บวม ฟกช้ำบนใบหน้า
- ช่วง 1-2 วันแรกอาจจะรู้สึกเจ็บคอจากการสอดสายยาสลบผ่านทางคอ
- อาจมีเลือกออกทางปากและจมูกได้ หากมีเลือดออกให้รีบประคบเย็นนอกช่องปาก และมาพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง
- แผลอาจจะเกิดการติดเชื้อได้ ต้องดูแลเป็นอย่างดี
- อาจมีอาการชาบริเวณริมฝีปากบน แก้ม และปีกจมูก
- หายใจลำบาก กลืนน้ำไม่ลง คอบวมและเจ็บ หรือเสียงแหบได้
- การสบฟันไม่สนิทหรือมีอาการปวดข้อต่อขากรรไกร
บทสรุป
การจัดฟันและการผ่าตัดขากรรไกรเป็นการรักษาที่ทำร่วมกันแล้วจะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น เพราะในบางกรณีหรือบางปัญหาฟันก็ไม่สามารถจัดการได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว และในปัจจุบันมีคลินิกทันตกรรมมากมายที่มีบริการจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกร ดังนั้น จะต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ เพื่อการรักษาที่ดีและมีคุณภาพมากที่สุด
และที่คลินิกทันตกรรมสุขสันต์สไมล์ก็มีบริการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรเช่นกันด้วยทีมทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ พร้อมด้วยเครื่องมือทางทันตกรรมที่ทันสมัย จึงมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นจะตรงใจคุณอย่างแน่นอน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ คลินิกทันตกรรมสุขสันต์สไมล์
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- บทความเพิ่มเติม: จัดฟันรอบสอง เตรียมตัวอย่างไร อันตรายไหม
- บทความเพิ่มเติม: สูงวัยจัดฟันได้หรือไม่ ? จัดฟันแบบไหนเหมาะสมที่สุด !!