เมื่อถึงช่วงวัยหนึ่ง พ่อแม่หรือผู้ปกครองก็อาจจะมีข้อสงสัยว่าควรจะพาลูกเข้าคลินิกทันตกรรมหรือยัง? หรือจะต้องพาไปทำอะไรบ้าง? ซึ่งแน่นอนว่าทันตกรรมสำหรับเด็กนั้นมีหลากหลาย การตรวจสุขภาพฟันก็ถือเป็นทันตกรรมรูปแบบหนึ่งเช่นกัน และหากพ่อแม่หรือผู้ปกครองคนไหนยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการพาลูกเข้าคลินิกทันตกรรม บทความนี้มีคำตอบ
ข้อดีของการพาลูกเข้าคลินิกทันตกรรม
การเข้าคลินิกทันตกรรม ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มีความจำเป็นทั้งนั้น เพราะการดูแลรักษาฟันให้ดีอยู่เสมอ จะมีผลต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่กำลังอยู่ในช่วงที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การพูด การบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งการพาลูกเข้าคลินิกทันตกรรมตั้งแต่ยังเด็กยังสามารถช่วยให้รู้สึกคุ้นเคยมากขึ้น และลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดปัญหาช่องปากและฟันที่อาจจะกลายเป็นปัญหารุนแรงได้ในอนาคต
ทันตกรรมสำหรับเด็กมีอะไรบ้าง
ทันตกรรมสำหรับเด็กหรือการทำฟันเด็กมีดังนี้
- ตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน
- เคลือบฟลูออไรด์
- เคลือบหลุมร่องฟัน
- ขูดหินปูน
- อุดฟันน้ำนม
- ถอนฟันน้ำนม
- รักษารากฟันน้ำนม
- ครอบฟันน้ำนม
- เครื่องมือป้องกันฟันล้ม
คำถามที่พบบ่อย
ควรพาไปพบหมอฟันครั้งแรกเมื่อไหร่
พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรพาลูกเข้าคลินิกทันตกรรมตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น หรือช่วงอายุประมาณ 6 เดือน เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้กับเด็กต่อการไปพบหมอฟัน และเป็นการแนะนำวิธีการดูแลช่องปากและฟันอย่างถูกต้องให้กับพ่อแม่และตัวเด็กเองด้วย
ทำไมเด็กถึงกลัวหมอฟัน
โรคกลัวหมอฟันของเด็กเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ความกลัวตามช่วงวัยที่มีต่อสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสหรือเป็นการจินตนาการของเด็กเอง ความกลัวจากคำบอกเล่าจากคนอื่นหรือเพื่อนวัยเดียวกัน หรือความกลัวจากครอบครัวที่ใช้หมอฟันมาขู่เพื่อให้เด็กเลิกกินน้ำหวานหรือขนมหวาน เป็นต้น
(อ่านเพิ่มเติม: ทำไมลูกกลัวหมอฟัน? ปัญหาของเด็กเล็กที่ไม่ใช่เรื่องเล็ก)
ทำฟันกับหมอฟันเด็กดีอย่างไร
โดยปกติแล้ว หมอฟันเด็กจะมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการรรับมือกับการทำทัตกรรมสำหรับเด็กเป็นอย่างดี เพราะมีความจำเป็นต้องใช้จิตวิทยาเข้ามาช่วยในการพูดคุยและการแสดงออกให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและสบายใจตลอดการรักษา
จัดฟันเด็กอันตรายหรือไม่
การจัดฟันเด็กก็เหมือนกับการจัดฟันทั่วไปของวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก ถือเป็นวิธีการรักษาฟันรูปแบบหนึ่งที่มีความปลอดภัย แต่จะต้องมีการดูแลและทำความสะอาดเป็นอย่างดี ซึ่งหมอฟันจะทำการแนะนำให้กับทั้งเด็กและพ่อแม่อยู่แล้ว
วิธีสร้างความคุ้นเคยให้เด็กในการไปพบหมอฟัน
ความคุ้นเคยถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อรู้สึกคุ้นเคยก็จะทำให้สบายใจมากยิ่งขึ้นหากจะต้องไปพบหมอฟัน ซึ่งหนึ่งในวิธีสร้างความคุ้นเคยที่แนะนำ คือการพาลูกไปพบหมอฟันทุก ๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน และจะไม่ทำให้เด็กรู้สึกว่าการไปพบหมอฟัน ต้องเป็นตอนที่มีปัญหาเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนไปพบหมอฟัน
ก่อนที่จะพาลูกไปพบหมอฟันควรจะงดอาหารประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคลื่นไส้อาเจียนระหว่างที่ตรวจ และควรจะพูดคุยกับลูกให้เข้าใจ ไม่โกหก หรือสร้างความคาดหวังให้ลูกว่าจะพาไปเที่ยวหรือพาไปที่อื่น และควรจะพามาในช่วงเวลาที่ลูกอารมณ์ดี ไม่หิว ไม่เหนื่อย ไม่ง่วง
ทำไมเด็กมีความเสี่ยงฟันผุเยอะ
ปัญหาฟันผุในเด็กเกิดได้จากทั้งพฤติกรรมการกินและการทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง เช่น ปล่อยให้ลูกหลับไปพร้อมกับการดูดขวดนม หรือการไม่แปรงฟันหลังจากกินขนมนั่นเอง
การสร้างบรรยากาศในคลินิกมีความจำเป็นหรือไม่
บรรยากาศในคลินิกส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกได้จริง หากเป็นคลินิกทันตกรรมที่มีการตกแต่งห้องตรวจให้มีความน่ารัก สดใส มีห้องนั่งเล่นสำหรับเด็กในระหว่างที่รอทำฟันหรือหลังทำฟันเสร็จ จะทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และลดความกังวลที่จะต้องพบหมอฟันได้
บทสรุป
การพาลูกเข้าคลินิกทันตกรรมตั้งแต่ยังเด็ก เป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับการพบหมอฟันมากขึ้น เพราะในบางกรณีที่พ่อแม่พาลูกไปพบหมอฟันเฉพาะตอนที่มีฟันผุแล้ว หรือจะต้องทำทันตกรรมที่จะทำให้เด็กรู้สึกเจ็บปวด ก็อาจจะกลายเป็นภาพจำของเด็กต่อการไปพบหมอฟันได้ ดังนั้นการพาลูกไปพบหมอฟันโดยเฉพาะหมอฟันเด็ก จึงเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ลูกของคุณสบายใจกับการไปพบหมอฟันมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้หากคุณกำลังมองหาคลินิกทันตกรรมให้ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลฟันและช่องปาก สุขสันต์สไมล์ ยินดีและพร้อมให้บริการ ที่นี่เรามีทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการทำฟันให้กับเด็ก สามารถรับมือกับปัญหากลัวหมอฟันของเด็กได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยเครื่องมือทันตกรรมที่ทันสมัย สามารถดูแลในทุกปัญหาทันตกรรมให้กับลูกของคุณ