logo

8 ข้อที่ควรพิจารณา เลือกคลินิกทำฟันเด็กยังไงให้ปลอดภัย

8 ข้อที่ควรพิจารณา เลือกคลินิกทำฟันเด็กยังไงให้ปลอดภัย

Table of Contents

หากจะเลือกคลินิกทันตกรรม คุณจะมีวิธีเลือกอย่างไร? แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ยากพอสมควร เพราะการเลือกคลินิกทันตกรรมนั้นอาจมีผลต่อการรักษาได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ ที่ผู้คนใช้ในการเลือกก็อาจจะเป็นความสะดวกในการเดินทาง หรือเป็นคลินิกทันตกรรมที่อยู่ใกล้บ้านมากที่สุด ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำ 8 ข้อที่ควรพิจารณาในการเลือกคลินิกทำฟันเด็กให้ปลอดภัย

ทำไมควรให้ลูกพบหมอฟันเด็ก

ทำไมควรให้ลูกพบหมอฟันเด็ก

การดูแลรักษาฟันของเด็กมีความสำคัญมาก หมอฟันจะต้องมีความชำนาญ และมีจิตวิทยาในการรักษา การพูดคุยกับทั้งเด็กและพ่อแม่ เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันเกี่ยวกับการดูแลฟันของเด็ก โดยปกติแล้วเด็กจะมีความกังวลและความกลัวตามช่วงวัยอยู่แล้ว เพราะการพบหมอฟันถือเป็นความแปลกใหม่ในชีวิต โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่จะมีการจินตนาการถึงสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ การพบหมอฟันเด็กที่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก และสามารถรับมือกับเด็กได้เป็นอย่างดีจึงจะตอบโจทย์มากกว่า

เลือกคลินิกทำฟันเด็กให้ปลอดภัย

เลือกคลินิกทำฟันเด็กให้ปลอดภัย

เนื่องจากคลินิกทำฟันในปัจจุบันให้เลือกจำนวนมากและมีอยู่ทั่วประเทศ จึงอาจทำให้เกิดความลังเลว่าควรจะเลือกคลินิกทำฟันเด็กอย่างไรดี วันนี้เรามีเคล็ดลับในการเลือกมาบอกต่อ ดังนี้

1. คลินิกที่มีบริการทำฟันเด็กโดยเฉพาะ

การพาลูกไปคลินิกทำฟันกับหมอฟันเด็กโดยเฉพาะจะดีกว่า เพราะหมอฟันจะมีความชำนาญ มีจิตวิทยาในการรักษา และมีบรรยากาศภายในห้องตรวจที่จะสามารถทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นได้

(อ่านเพิ่มเติม: หมอฟันเด็กแตกต่างจากหมอฟันผู้ใหญ่อย่างไร)

2. สามารถเดินทางได้สะดวก

การเดินทางเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในการตัดสินใจของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีจราจรติดขัด การเดินทางได้อย่างสะดวกที่สุดจึงเป็นทางเลือกที่ดี หรือจะเลือกคลินิกทันตกรรมที่อยู่ใกล้บ้าน เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็จะสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว

3. มีประเภทของทันตกรรมหลากหลาย

คงไม่มีใครอยากเปลี่ยนคลินิกบ่อย ๆ โดยเฉพาะหากลูกเริ่มคุ้นเคยกับคลินิกและหมอฟันแล้ว จึงควรเลือกคลินิกทันตกรรมที่มีประเภทของทันตกรรมให้เลือกอย่างหลากหลาย เนื่องจากในอนาคตอาจจะจำเป็นต้องทำทันตกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติม

4. ได้รับรองจากหน่วยงานภาครัฐ

ควรเลือกคลินิกทันตกรรมที่ได้รับรองจากหน่วยงานภาครัฐหรือกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากเลขใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก และจะต้องยังไม่หมดอายุ

5. ตรวจสอบข้อมูลของหมอฟันเด็ก

โดยปกติแล้วจะสามารถตรวจสอบข้อมูลของทันตแพทย์ได้ที่เว็บไซต์ของทันตแพทยสภา ซึ่งหากมีความสงสัยว่าหมอฟันในคลินิกนั้น ๆ ได้ศึกษาเกี่ยวกับทันตกรรมสำหรับเด็กโดยเฉพาะหรือไม่ ก็สามารถนำชื่อไปตรวจสอบได้เลย

6. มีช่องทางติดต่อมากมาย

ช่องทางติดต่อของคลินิกควรจะมีหลากหลาย ทั้งทางโทรศัพท์และโซเชียลมิเดียต่าง ๆ เพื่อความสะดวกในการติดต่อสอบถาม หรือการตรวจสอบคุณภาพของคลินิกและหมอฟัน

7. เครื่องมือและอุปกรณ์ได้มาตรฐาน

เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษา ควรจะเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย สะอาด และได้มาตรฐาน เพื่อการรักษาที่ปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

8. ตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริง

การตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริงจะช่วยในการตัดสินใจได้มากขึ้น เพราะรีวิวต่าง ๆ จะมีบอกทั้งข้อดีข้อเสีย และผลการรักษาที่เห็นได้ชัด ซึ่งในปัจจุบันก็สามารถค้นหาได้จากในสื่อโซเชียล หรือเว็บไซต์ของทางคลินิก และที่สำคัญ อย่าลืมตรวจสอบเรื่องงการติดตามผลหลังการรักษาด้วย

การดูแลความสะอาดฟันเด็ก

การดูแลความสะอาดฟันเด็ก

เริ่มตั้งแต่อายุประมาณ 4 เดือน พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรเริ่มทำความสะอาดช่องปากของลูกด้วยการเช็ดช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ และเมื่อฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้นช่วงอายุประมาณ 6 เดือน ให้ทำความสะอาดโดยการแปรงฟันเด็กด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เป็นประจำทุกวัน และควรให้ลูกเลิกดูดนมจากขวดก่อนอายุ 18 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันน้ำนมผุ ที่สำคัญคือจะควรจะพาลูกไปตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างน้อยทุก 6 เดือน

บทสรุป

การเลือกคลินิกทำฟันให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน จะช่วยให้การตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน หรือการรักษาปัญหาต่าง ๆ มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่คลินิกทันตกรรม สุขสันต์สไมล์พลัส มีบริการทำฟันเด็กโดยหมอฟันเด็กผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็น ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน ครอบฟัน ก็สามารถไว้วางใจเรื่องความปลอดภัยได้ด้วยระบบรักษาความสะอาด และเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานสากล

ทพ. ปุณณวิชช์ เจียมใจสว่างฤกษ์
ทพ. ปุณณวิชช์ เจียมใจสว่างฤกษ์

ผู้เชี่ยวชาญด้าน ทันตกรรมประดิษฐ์ ทันตกรรมรากเทียม จัดฟันใส จัดฟันโลหะ วีเนียร์เซรามิก และเป็นผู้บริหารคลินิก SuksanSmilePlus

Share This Post

Share on facebook
Share on linkedin
Share on twitter
Share on email
Related Post: