logo

การดูแลฟันของเด็กในแต่ละช่วงวัยต้องทำอย่างไรบ้าง

การดูแลฟันของเด็กในแต่ละช่วงวัยต้องทำอย่างไรบ้าง

Table of Contents

การดูแลฟันของเด็กแต่ละช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะการดูแลในช่วงของฟันน้ำนม เพราะเป็นชุดของฟันที่ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ ซึ่งหากใครที่มีปัญหาฟันน้ำนมผุก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันและการเจริญเติบโตในอนาคตได้ และอาจจะสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีต่อการไปพบหมอฟันให้กับเด็ก เพราะต้องทำการรักษาที่สร้างความเจ็บปวดนั่นเอง

การดูแลฟันเด็กแต่ละช่วงวัย

กระบวนการทางทันตกรรมสำหรับเด็ก หรือที่เรียกว่าการทำฟันเด็ก สามารถแบ่งได้เป็น 4 ช่วงหลัก ๆ ตามช่วงวัยของเด็ก ได้แก่

การดูแลฟันเด็กแต่ละช่วงวัย

ช่วงแรกเกิด

ในช่วงแรกเกิดจะยังไม่มีฟันน้ำนมขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองจึงสามารถทำความสะอาดโดยการใช้ผ้าสะอาดนุ่ม ๆ เช็ดทำความสะอาดบริเวณเหงือก กระพุ้งแก้ม และลิ้น หลังจากดูดนมเสร็จได้เลย 

ช่วงอายุ 6 เดือน

เมื่อเริ่มมีฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นแล้ว ควรจะพาลูกไปพบหมอฟันเพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก และรับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ซึ่งในช่วงอายุนี้ยังสามารถใช้ผ้าสะอาดในการทำความสะอาดบริเวณฟันของลูกได้ และเมื่อฟันน้ำนมมีขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ให้ใช้เริ่มใช้แปรงสีฟันที่ขนอ่อนนุ่มในการทำความสะอาดฟัน

ช่วงอายุ 1-4 ปี

เป็นช่วงที่สามารถสอนให้ลูกทำความสะอาดด้วยตัวเอง โดยอาจจะเริ่มจากการสอนบ้วนปาก และสอนให้ใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็ก ควบคู่กับยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ ซึ่งในช่วงอายุ 3 ปีขึ้นไป ลูกจะสามารถแปรงฟันด้วยตัวเองได้แล้ว แต่พ่อแม่ก็จะต้องหมั่นตรวจเช็กความสะอาดหลังแปรงฟันทุกครั้ง และจะต้องพาไปพบหมอฟันเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันทุก ๆ 6 เดือน

ช่วงอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป

เป็นช่วงที่ฟันน้ำนมจะเริ่มหลุดไปเอง และมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่แล้ว แต่หากมีกรณีที่ฟันแท้ขึ้นมาแล้ว แต่ฟันน้ำนมยังไม่ยอมหลุดนานเกิน 3 เดือน ควรจะรีบไปพบหมอฟันในทันที ซึ่งอาจจะต้องทำการถอนฟันน้ำนมออก เพื่อให้ฟันแท้สามารถขึ้นได้อย่างเป็นระเบียบ

ทำไมควรให้ลูกพบหมอฟันตั้งแต่เด็ก

การดูแลฟันน้ำนมมีความสำคัญอย่างมาก พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรพาลูกไปพบหมอฟันตั้งแต่ช่วงอายุประมาณ 6 เดือน หรือช่วงที่ฟันน้ำนมเริ่มขึ้น โดยควรจะพาไปตรวจฟันตามนัดของหมอฟันเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุก 3-6 เดือน 

ทำไมควรให้ลูกพบหมอฟันตั้งแต่เด็ก

นอกจากจะได้ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันแล้ว พ่อแม่ ผู้ปกครองมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลความสะอาดสุขอนามัยภายในช่องปากของเด็กจากทันตแพทย์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น

  • การทำความสะอาดภายในช่องปาก เช่น ฟัน กระพุ้งแก้ม ลิ้น และเหงือก
  • การเลือกแปรงสีฟันและยาสีฟันให้เหมาะสม
  • วิธีการแปรงฟันอย่างถูกต้องตามช่วงวัย
  • ลำดับการขึ้นของฟันน้ำนม รวมถึงการหลุดของฟันน้ำนม
  • ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีปัญหาฟันผุ หรือการเตรียมรับมือหากฟันน้ำนมขึ้นผิดลำดับ
  • ความสำคัญของการมาพบทันตแพทย์เป็นประจำ

เลือกคลินิกทันตกรรมอย่างไร

แน่นอนว่าการเลือกคลินิกทันตกรรมมีความสำคัญอย่างมาก โดยจะต้องเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและมีความปลอดภัย โดยเฉพาะสำหรับการทำทันตกรรมสำหรับเด็ก จะต้องมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน และที่สำคัญ จะต้องเลือกคลินิกทันตกรรมที่มีบริการสำหรับเด็กหรือมีหมอฟันเด็กโดยเฉพาะ เพราะจะมีวิธีการรับมือและมีความเข้าใจในธรรมชาติของเด็กเป็นอย่างดี รวมถึงการสร้างบรรยากาศที่ดีในการตรวจฟันหรือรักษาฟันด้วย

สำหรับใครที่ต้องการพาลูกไปตรวจสุขภาพช่องปากและฟันกับหมอฟันเด็กที่มีประสบการณ์ในการรักษาและรับมือกับเด็กมาอย่างยาวนาน ต้องที่ สุขสันต์สไมล์พลัส เพราะไม่ใช่แค่ความเชี่ยวชาญของหมอฟันเท่านั้น บรรยากาศและการตกแต่งภายในคลินิกยังมีความเป็นกันเอง เพื่อสร้างความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่ทำให้ลูกรู้สึกหวาดกลัวหรือไม่สบายใจในการมาคลินิกอย่างแน่นอน

บทสรุป

การเลือกคลินิกทันตกรรมที่มีบริการทันตกรรมสำหรับเด็กโดยเฉพาะ จะช่วยให้ทัศนคติของลูกที่มีต่อการดูแลรักษาฟันและการมาพบหมอฟันเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เนื่องจากจะมีวิธีการรับมือที่เพราะสม และพ่อแม่หรือผู้ปกครองควรจะต้องไปพบหมอฟันเด็กกับลูกทุกครั้ง เพื่อรับคำแนะนำและวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง และเป็นการสร้างความอุ่นใจให้กับลูกนั่นเอง

ทพ. ปุณณวิชช์ เจียมใจสว่างฤกษ์
ทพ. ปุณณวิชช์ เจียมใจสว่างฤกษ์

ผู้เชี่ยวชาญด้าน ทันตกรรมประดิษฐ์ ทันตกรรมรากเทียม จัดฟันใส จัดฟันโลหะ วีเนียร์เซรามิก และเป็นผู้บริหารคลินิก SuksanSmilePlus

Share This Post

Share on facebook
Share on linkedin
Share on twitter
Share on email
Related Post: