การจัดฟันได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากการจัดฟันจะเป็นการรักษาปัญหาฟันแล้ว ยังเพิ่มความมั่นใจและความมีเสน่ห์ได้ด้วย ซึ่งข้อดีอีกอย่างของการจัดฟันที่วัยรุ่นตัดสินใจทำกันเป็นจำนวนมากคือ รูปหน้าที่เข้ารูปและส่งผลต่อการลดน้ำหนักด้วย เพราะหลังการจัดฟันไม่สามารถทานอาหารได้มากนัก จำเป็นต้องทานอาหารอ่อนจำพวก โจ๊กหรือข้าวต้ม เป็นหลัก ซึ่งเป็นเหตุให้น้ำหนักลดลงตามไปด้วย
ทำความรู้จักกับการจัดฟัน
การจัดฟัน (Orthodontics) เป็นการทำทันตกรรมเพื่อแก้ไขความผิดปกติและปัญหาช่องปาก โดยเฉพาะปัญหาฟันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟันยื่น ฟันเก หรือฟันซ้อน เป็นต้น โดยการจัดฟันเป็นการรักษาเพื่อให้การทำงานของฟันดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกหรือฟันผุ รวมทั้งยังเป็นการหลีกเลี่ยงการสึกหรอของฟัน และปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมาในอนาคตหากฟันไม่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
นอกจากนี้ การจัดฟันยังเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตของคนไข้อีกด้วย เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลี่ยงการพูดโดยที่ไม่ให้เห็นฟัน ซึ่งปัญหาเรื่องฟัน ทั้งฟันยื่น หรือฟันทับซ้อนกันนั้นลดความมั่นใจและความกล้าในการพูดลงอย่างมาก ดังนั้นแล้ว เพื่อความมั่นใจและการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพของฟัน ควรทำการจัดฟันเพื่อให้ฟันเข้าที่และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด
การจัดฟันมีกี่แบบ?
ในปัจจุบัน พัฒนาการทางทันตกรรมก้าวหน้าอย่างมาก จึงส่งผลให้เกิดวิธีการจัดฟันรูปแบบใหม่ออกมา โดยการจัดฟันแบ่งออกเป็น 4 แบบหลัก ๆ ประกอบด้วย
การจัดฟันแบบโลหะ (Metal Braces)
การจัดฟันแบบโลหะ หรือการจัดฟันเหล็กเป็นการติดเครื่องมือติดแน่นกับฟัน พร้อมกับใช้ยางจัดฟันควบคู่ไปด้วย โดยข้อดีของการจัดฟันแบบนี้คือราคาไม่สูงมาก และสามารถเปลี่ยนสียางจัดฟันได้ตามที่คนไข้ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการจัดฟันแบบโลหะคือ จำเป็นต้องพบทันตแพทย์ทุกเดือนเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์และเครื่องมือจัดฟัน อีกทั้งยังยากต่อการทำความสะอาดมากกว่าการจัดฟันแบบอื่น ๆ อีกด้วย โดยจำเป็นต้องไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดตามซอกหรือมุมให้สะอาดมากที่สุด
การจัดฟันแบบดามอน (Damon System)
เป็นการพัฒนาขึ้นมาจากการจัดฟันแบบโลหะ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษามีความซับซ้อนมากกว่า ส่งผลให้ไม่ต้องใช้ยางจัดฟันรัดเข้ากับลวด อีกทั้งยังดีกว่าการจัดฟันแบบโลหะคือไม่จำเป็นต้องเข้าพบทันตแพทย์บ่อยครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าการจัดฟันแบบดามอนมีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะตามปกติอย่างแน่นอน ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีการรักษาที่พิเศษกว่า แต่กระนั้นราคาที่สูงก็มาพร้อมกับระยะเวลาในการรักษาที่น้อยกว่ามากตามไปด้วย
การจัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Braces)
เครื่องมือที่ใช้สำหรับการจัดฟันแบบเซรามิกเหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ เพียงแต่เปลี่ยนวัสดุที่ใช้จากโลหะเป็นเซรามิกใส ซึ่งประกอบด้วยแบบธรรมดาและแบบไม่จำเป็นต้องใช้ยางจัดฟันเหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ โดยการจัดฟันแบบเซรามิกมีข้อดีคือความแข็งแรงและคงทนของวัสดุมีอายุการใช้งานยาวนาน
การจัดฟันแบบใส (Invisilign)
การจัดฟันแบบใสได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องออกที่สาธารณะเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น ดารา นักแสดง และนักร้อง เป็นต้น เนื่องจากการจัดฟันแบบใสนอกจากจะสะดวกต่อการใช้งานแล้ว ยังเป็นการจัดฟันแบบไม่เห็นเครื่องมืออีกด้วย
โดยการจัดฟันแบบใสนี้เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ อีกทั้งข้อดีของการจัดฟันประเภทนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการพบแพทย์มากนัก แต่กระนั้น การจัดฟันแบบใสก็มีราคาที่สูงกว่าการจัดฟันแบบอื่น
อายุเท่าไหร่ถึงจัดฟันได้?
คำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการจัดฟันคือ อายุเท่าไหร่ถึงจะสามารถจัดฟันได้? โดยตามจริงแล้วไม่มีอายุที่ตายตัวว่าต้องอายุเท่าไหร่ถึงจะจัดฟันได้ เพราะการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาของฟันควรเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาที่อาจตามมาภายหลังได้
แต่กระนั้น ตามคำแนะนำของทันตแพทย์แล้ว การทำฟันเด็กควรทำหลังจากที่ฟันน้ำนมหลุดออกจนหมด พร้อมกับฟันแท้ขึ้นมาครบแล้วถึงจะเป็นช่วงอายุที่เหมาะสม ซึ่งช่วงอายุดังกล่าวอยู่ที่ 12 – 15 ปี
อย่างไรก็ตาม การจัดฟันควรเข้ารับการปรึกษาจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะก่อนทำการจัดฟัน เพราะสุขภาพช่องปากและฟันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ควรให้ทันตแพทย์ประเมินและวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนว่าเหมาะสมกับการจัดฟันหรือไม่
บทสรุป
การจัดฟันเป็นทางเลือกในการรักษาปัญหาฟันเก ฟันซ้อน หรือฟันไม่เท่ากัน ซึ่งอายุที่เหมาะสำหรับการจัดฟันคือตั้งแต่ช่วงอายุ 12 – 15 ปีเป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตาม การจัดฟันควรเข้ารับการปรึกษากับทันตแพทย์ก่อน เพื่อประเมินช่องปากและฟันอย่างละเอียด เพราะสุขภาพฟันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การปรึกษาทันตแพทย์ก่อนจึงเป็นทางที่ดีที่สุด
หากใครกำลังมองหา คลินิกทันตกรรมสำหรับทำฟันเด็ก คลินิกทันตกรรมสุขสันต์สไมล์ เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก ด้วยบริการทางทันตกรรมที่ครบวงจรและครอบคลุมทุกปัญหาช่องปากของคนไข้ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ หรือโทร 096-151-7194