หนึ่งในสิ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะมีความสงสัย นั่นคือการเลือกยี่ห้อของรากฟันเทียม เพราะทราบกันดีกว่าการทำรากฟันเทียมนั้นไม่ได้มีความแตกต่างแค่เรื่องของรูปแบบการทำ แต่ยี่ห้อของรากฟันเทียมก็มีความแตกต่างกันเช่นเดียวกัน และในวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับยี่ห้อของรากฟันเทียมที่ได้รับความนิยมและทันตแพทย์เลือกใช้
รากฟันเทียมมีกี่ยี่ห้อ
รากฟันเทียมที่ได้รับความนิยมมีอยู่ 3 ยี่ห้อ ได้แก่
1. รากฟันเทียม Straumann
ถือเป็นรากฟันเทียมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากประเทศสวิสเซอแลนด์ ได้รับการไว้วางใจเรื่องคุณภาพจากทันตแพทย์จำนวนมาก ได้มีการพัฒนาให้มีความแข็งแรง และ ทำให้การยึดติดกับกระดูกขากรรไกรในระดับเซลล์เพิ่มมากขึ้น ทำให้แผลหายไวขึ้นและใช้งานได้ยาวนาน
2. รากฟันเทียม Osstem
ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรากฟันเทียมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จากประเทศเกาหลีใต้ โดดเด่นเรื่องการผลิตที่ได้มาตรฐานและราคาที่เข้าถึงง่าย ผลิตโดยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ได้ความแม่นยำและความทนทานที่มากที่สุด
3. รากฟันเทียม Hiossen
ถือเป็นรากฟันเทียมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเอเชีย จากประเทศเกาหลีใต้ และเป็นแบรนด์เดียวกับ Osstem แต่มีการผลิตที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรากฟันเทียมของฝั่งเอเชียที่ได้รับความนิยมในระดับโลกเช่นเดียวกัน
ใครที่ควรทำรากฟันเทียม
ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติไป โดยเฉพาะเมื่อส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือความมั่นใจในการยิ้มหรือพูดคุย แต่จะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปี เพราะเป็นช่วงวัยที่ร่างกายเติบโต และจะสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากกระดูกขากรรไกรพัฒนาเต็มที่แล้ว
ใครที่ไม่ควรทำรากฟันเทียม
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ควรทำหลังจากคลอดเสร็จเรียบร้อยเเล้ว
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวและควบคุมไม่ได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็งที่ต้องรักษาด้วยการฉายรังสีบริเวณใบหน้าเเละช่องปาก หรือโรคปริทันต์อักเสบรุนเเรง เป็นต้น
- ผู้ที่กำลังอยู่ในระหว่างรักษาด้วยรังสีบำบัดบริเวณคอหรือศีรษะ
- ผู้ที่มีการใช้ยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
การดูแลรักษารากฟันเทียม
วิธีการดูแลรักษาและทำความสะอาดจะเหมือนกับการดูแลฟันโดยทั่วไป ได้แก่ การแปรงฟันอย่างถูกต้อง ใช้น้ำยาบ้วนปากและไหมขัดฟันร่วมด้วยทุกครั้ง และทำการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุกปี เนื่องจากการทำรากฟันเทียมมีการยึดติดแน่น และมีความคงทนเหมือนฟันแท้
คำถามที่พบบ่อยในการทำรากฟันเทียม
ระยะเวลาพักฟื้น
หลังจากการทำรากฟันเทียมจะใช้เวลาในการพักฟื้นประมาณ 1-2 วัน แต่ในบางกรณีที่มีการผ่าตัดเสริมกระดูก หรือเสริมเนื้อเยื่อเหงือก ก็อาจจะใช้เวลาพักฟื้นนานขึ้น
อาหารที่ควรเลี่ยงหลังทำรากฟันเทียม
หลังจากทำรากฟันเทียมควรเลี่ยงอาหารที่แข็งหรือเหนียวจนเกินไป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อรากฟันเทียมและอาจทำให้แผลหายช้าได้
ต่างจากฟันปลอมอย่างไร
รากฟันเทียมจะต่างจากฟันปลอมตรงที่ฟันปลอมจะสามารถถอดออกได้ แต่รากฟันเทียมจะมีการติดแน่น สามารถเคี้ยวและบดอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะใช้วัสดุเซรามิกที่มีความแข็งแรง และมีสีเหมือนฟันแท้ตามธรรมชาติ
อายุเท่าไหร่สามารถทำรากฟันเทียมได้
คนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป และสูญเสียฟันแท้จากสาเหตุต่าง ๆ สามารถทำรากฟันเทียมได้ ซึ่งรูปแบบที่ทำก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนฟันแท้ที่สูญเสียไป
การทำรากฟันเทียมมีกี่แบบ
รูปแบบของการทำรากฟันเทียมมีด้วยกัน 3 รูปแบบ ได้แก่
- ทำรากฟันเทียม 1 ซี่
- ทำรากฟันเทียมหลายซี่
- ทำรากฟันเทียมทั้งปาก
ทำรากฟันเทียมต้องปลูกกระดูกก่อนหรือไม่
โดยปกติแล้วการทำรากฟันเทียมไม่จำเป็นต้องปลูกกระดูกก่อน แต่ก็จะมีกรณีที่กระดูกขากรรไกรบริเวณที่จะใส่รากฟันเทียมไม่เพียงพอที่จะฝังรากฟันเทียม ก็อาจจะต้องปลูกกระดูกก่อน
บทสรุป
สำหรับใครที่สงสัยว่ารากฟันเทียมยี่ห้อไหนดีที่สุด ต้องบอกเลยว่ารากฟันเทียมแต่ละยี่ห้อมีมาตรฐานการผลิตและได้รับความไว้วางใจจากทันตแพทย์มาอย่างยาวนาน ซึ่งในแต่ละคลินิกทันตกรรมก็จะมีรากฟันเทียมให้เลือกอยู่แล้ว หรือหากตัดสินใจไม่ได้ก็สามารถปรึกษากับทางทันตแพทย์ได้เลย ซึ่งควรจะเลือกคลินิกทันตกรรมที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการที่ดีและได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ดีที่สุด
หากผู้ที่มีการสูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติและต้องการรักษารากฟันเทียม เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถติดต่อได้ที่ คลินิกทันตกรรมสุขสันต์สไมล์ ซึ่งมีบริการทันตกรรมแบบครบวงจร สำหรับคนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย รวมถึง ทันตกรรมสำหรับเด็ก สามารถติดต่อได้ทางเว็บไซต์ของเราโดยตรง หรือติดต่อที่เบอร์ 02-051-7194