logo

ตัดเหงือกครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้าง และเตรียมตัวอย่างไรให้พร้อม

Table of Contents

การตัดเหงือก ดูเป็นกระบวนการที่ฟังดูน่ากลัว และสร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคนไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งแท้จริงแล้ว การตัดเหงือกเป็นการรักษาและจะช่วยปรับปรุงสุขภาพช่องปากและฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการทำความเข้าใจการตัดเหงือก ไม่ว่าจะเป็น การเตรียมตัว สาเหตุที่ต้องทำการตัดเหงือก รวมถึงวิธีการดูแลหลังการรักษา

การตัดเหงือก คืออะไร

การตัดเหงือก (Gum Contouring) คือการศัลยกรรมปรับแนวเหงือกส่วนเกิน เพื่อเปลี่ยนรูปร่างของเหงือกให้ดูสวยงามและสมดุลกับฟัน ซึ่งจะเป็นกระบวนการทางทันตกรรมที่จะช่วยแก้ไขภาวะยิ้มเห็นเหงือกเยอะ หรือที่คุ้นเคยกันว่า Gummy Smile โดยจะเป็นการผ่าตัดที่ใช้เครื่องมือทางทันตกรรมที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานมากที่สุด 

นอกจากนี้ ยังสามารถรักษาสภาวะบางอย่างในช่องปากได้ ตัวอย่างเช่น โรคเหงือกอักเสบ หรือปัญหาร่องเหงือกลึก ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ เป็นต้น และมักจะทำร่วมกับการรักษารากฟัน วีเนียร์ ถอนฟันคุด และการจัดฟัน เพื่อเป็นการปรับรูปร่างและสภาพของฟันให้มีความสวยงามมากที่สุด

ปัญหาภายในช่องปากที่สามารถแก้ไขด้วยการตัดเหงือก

เมื่อได้รู้จักการตัดเหงือกแล้ว เราจะพาทุกคนมาดูว่าปัญหาภายในช่องปากแบบไหนบ้างที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดเหงือก ซึ่งมีดังนี้

  • ผู้ที่ยิ้มแล้วเห็นเหงือก/เหงือกล้น
  • ผู้ที่มีปัญหากระดูกขอบเหงือกปูดนูน
  • ผู้ที่มีปัญหาเหงือกคลุมฟัน ซึ่งจะส่งผลทำให้ฟันดูเล็กสั้นและไม่ได้สัดส่วน
  • ผู้ที่มีปัญหาเหงือกไม่เท่ากัน
  • ผู้ที่มีปัญหาเหงือกปูดและไม่เรียบสม่ำเสมอ

สำหรับใครที่รู้สึกว่าปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าวไปข้างต้น ได้สร้างความกังวลใจ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถเลือกเข้ารับการตัดเหงือก เพื่อแก้ไขปัญหากวนใจเหล่านี้ได้ แต่จะต้องมีการปรึกษาทันตแพทย์และเข้ารับการประเมินอย่างถี่ถ้วนก่อน

การตัดเหงือกเจ็บหรือไม่

ตัดเหงือกเจ็บไหม

หากกังวลว่าการตัดเหงือกจะทำให้รู้สึกเจ็บมากหรือไม่? บอกได้เลยว่าความเจ็บปวดจากการตัดเหงือก ขึ้นอยู่กับวิธีการตัดเหงือก ซึ่งจะมีอยู่หลายวิธีที่มีความแตกต่างกัน โดยจะมีอยู่ 2 วิธีที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นั่นคือ การตัดเหงือกด้วยมีดผ่าตัด และการตัดเหงือกด้วยเลเซอร์ 

ซึ่งแน่นอนว่าการใช้มีดผ่าตัดจะมีความเจ็บปวดเกิดขึ้น แต่การใช้เลเซอร์จะเป็นการใช้นวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาช่วยให้การผ่าตัดไม่สร้างความเจ็บป่วยแก่ผู้เข้ารับการผ่าตัด แถมยังไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นอีกด้วย 

การตัดเหงือก มีกี่วิธี?

การตัดเหงือกมีอยู่หลายวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีการตัดเหงือก 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่

การตัดเหงือกด้วยมีดผ่าตัด

การตัดเหงือกด้วยมีดผ่าตัด (Scalpel Gingivectomy) เป็นการผ่าตัดที่ใช้มีดผ่าตัดในการตัดเหงือกส่วนเกินออกมา ซึ่งในปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่อาจจะมีเลือดออกมาเยอะและใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน

การตัดเหงือกด้วยเลเซอร์

การตัดเหงือกด้วยเลเซอร์ (Laser Gingivectomy) เป็นการผ่าตัดที่ใช้เลเซอร์เพื่อกำจัดเนื้อเยื่อเหงือกส่วนเกิน ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากกว่าการใช้มีดผ่าตัด เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวกกว่า และเห็นผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

ซึ่งการตัดเหงือกด้วยเลเซอร์จะไม่มีความรู้สึกเจ็บหรือมีเลือดออกเยอะเหมือนการใช้มีดผ่าตัด แถมยังเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังการตัดเหงือก และไม่ต้องเสียเวลาไปกับการพักฟื้นหลังผ่าตัดอีกด้วย สำหรับใครที่ต้องการตัดเหงือกเพื่อรักษาและแก้ไขปัญหาฟัน บอกได้เลยว่าการตัดเหงือกด้วยเลเซอร์ถือว่าตอบโจทย์ที่สุด

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเหงือก

ก่อนที่จะทำการผ่าตัดจะต้องมีการเตรียมตัว เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปได้อย่างราบรื่นและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนี้

ปรึกษาทันตแพทย์

การตัดเหงือกจะต้องได้รับการประเมินจากทันตแพทย์ก่อนทุกครั้ง ว่ามีความจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่ จากนั้น จะต้องแจ้งข้อมูลที่มีความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็น โรคประจำตัวหรือประวัติการแพ้ยา 

ตรวจสุขภาพ

หากผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดมีโรคประจำตัวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ควรจะต้องควบคุมให้ระดับคงที่ก่อนการผ่าตัด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด หรือในบางกรณีอาจต้องมีการตรวจเลือดหรือตรวจเพิ่มเติมตามคำแนะนำและการประเมินของทันตแพทย์

เตรียมตัวก่อนผ่าตัด

การเตรียมตัวก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด จะต้องมีการตรวจสอบตัวเองและระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น

  • หยุดรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  • งดรับประทานอาหารและน้ำ 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด ในกรณีที่ต้องใช้ยาสลบ
  • เตรียมสภาพจิตใจให้พร้อมสำหรับการผ่าตัด 

ดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน

ทำความสะอาดภายในช่องปากด้วยการแปรงฟันให้ถูกวิธี ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์

การดูแลหลังการผ่าตัด

  • รับประทานอาหารอ่อน ตัวอย่างเช่น โจ๊ก ซุป หรือน้ำผลไม้
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแข็งและมีรสชาติเผ็ดหรือร้อนเกินไป
  • ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอที่ร่างกายต้องการ
  • หากมีอาการปวด สามารถใช้ยาแก้ปวดและยาฆ่าเชื้อตามที่ทันตแพทย์สั่ง
  • พบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อติดตามอาการ

บทสรุป

การตัดเหงือกเป็นบริการทางทันตกรรมที่จะช่วยให้รอยยิ้มดูสมดุลมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาความต้องการในการเข้ารับการผ่าตัดให้ถี่ถ้วน และรับการประเมินจากทันตแพทย์ เพื่อให้เป็นการรักษาที่ตอบโจทย์มากที่สุด ที่สำคัญ จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด และจะต้องดูแลฟัน รวมถึงสุขอนามัยภายในช่องปากให้ดีที่สุด

สำหรับใครที่ต้องการคลินิกทันตกรรมสำหรับการตัดเหงือกโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อได้ที่ Suksan Smile เพราะเราเป็นคลินิกทำฟันที่มีบริการทางทันตกรรมแบบครบวงจร และมีการเลือกใช้เครื่องมือที่มีความทันสมัยและได้มาตรฐาน จึงสามารถรับประกันความปลอดภัยของคุณได้เลย!

ทพ. ปุณณวิชช์ เจียมใจสว่างฤกษ์
ทพ. ปุณณวิชช์ เจียมใจสว่างฤกษ์

ผู้เชี่ยวชาญด้าน ทันตกรรมประดิษฐ์ ทันตกรรมรากเทียม จัดฟันใส จัดฟันโลหะ วีเนียร์เซรามิก และเป็นผู้บริหารคลินิก SuksanSmilePlus

Share This Post

Share on facebook
Share on linkedin
Share on twitter
Share on email
Related Post: