logo

ทันตกรรมเด็กคืออะไร มีอะไรบ้างที่สามารถทำได้

ทันตกรรมเด็กคืออะไร มีอะไรบ้างที่สามารถทำได้

Table of Contents

ทันตกรรมเด็ก หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าทำฟันเด็ก ถือเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนจะต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะการเกิดปัญหาฟันผุหรือปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันต่าง ๆ นั้นสามารถเกิดได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก หรือตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากมีการปล่อยปะละเลยก็จะสามารถกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้นในอนาคตได้ ดังนั้น การทำฟันเด็ก โดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเกี่ยวกับการทำฟันเด็กโดยเฉพาะ จึงมีความสำคัญอย่างมาก

ทันตกรรมเด็กคืออะไร

ทันตกรรมเด็กคืออะไร

ทันตกรรมเด็ก (Pedodontics) คือ การรักษาสุขภาพช่องปากของเด็กตั้งแต่ช่วงอายุประมาณ 6 เดือน หรือช่วงที่ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้นไปจนถึงช่วงวัยรุ่นตอนกลางอายุประมาณ 15 ปี โดยการทำทันตกรรมเด็กนั้นจะเน้นไปที่การดูแลและรักษาฟันน้ำนมเป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ดูแลรักษา และการป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน เพราะถือเป็นฟันที่ควรจะใส่ใจมากเป็นพิเศษ จึงเป็นช่วงวัยที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรจะเข้าพบทันตแพทย์ร่วมกับเด็ก เพื่อรับการแนะนำ และวิธีการดูแลรักษาช่องปากและฟันให้กับลูกน้อย

ทันตกรรมสำหรับเด็กมีอะไรบ้าง

ทันตกรรมสำหรับเด็กมีอะไรบ้าง

1. การตรวจสุขภาพฟันเด็ก

การตรวจสุขภาพฟันสำหรับเด็กนั้นจะมีการตรวจตั้งแต่ฟัน เหงือก ลิ้น รวมถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายในช่องปาก และสุขภาพช่องปากโดยรวม เพื่อป้องกันการนำไปสู่ปัญหาช่องปากและฟัน เช่น ฟันน้ำนมผุ และทันตแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลช่องปากและฟันของเด็กให้กับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง 

2. การเคลือบฟลูออไรด์

การเคลือบฟลูออไรด์เป็นการใช้ฟลูออไรด์ความเข้มข้นสูงในรูปแบบของเจลหรือวานิช เคลือบไว้ที่ผิวฟันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและป้องกันการเสื่อมโทรมของฟันน้ำนม เพราะสามารถผุได้ง่ายกว่าฟันแท้ โดยจะสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมเริ่มขึ้น ซึ่งจะสามารถได้ 2 แบบ ได้แก่

  • เคลือบฟลูออไรด์โดยใช้ฟลูออไรด์แวนิช (Fluoride Varnish) เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ
  • เคลือบฟลูออไรด์โดยใช้ฟลูออไรด์เจล (Fluoride Gel) เหมาะกับเด็กอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป

3. การถอนฟันน้ำนม

ในกรณีที่ฟันผุมาก ๆ จนถึงโพรงประสาทรากฟัน มักจะใช้วิธีการถอนฟันแทน ซึ่งโดยปกติแล้วฟันน้ำนมจะสามารถหลุดได้เอง แต่ในกรณีที่ฟันน้ำนมไปเบียดกับซี่อื่น ก็ควรจะถอนออกเพื่อไม่ให้ฟันมีการเคลื่อนผิดตำแหน่งจนเกิดกลายเป็นปัญหาฟันได้

4. การอุดฟันน้ำนม

การอุดฟันน้ำนม เป็นการซ่อมแซมเนื้อฟันของเด็กที่มีรอยผุให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ ส่วนใหญ่จะอุดฟันที่ยังไม่มีอาการปวดหรือบวมมากนัก ซึ่งการอุดฟันจะสามารถแบ่งตามวัสดุที่ใช้อุดฟัน ดังนี้

  • อุดฟันอมัลกัม (Amalgam) วัสดุคงทน แข็งแรง มีสีเงินเหมือนโลหะ 
  • อุดฟันเรซินคอมโพสิต (Composite Resin) วัสดุเรซินสีเดียวกับเนื้อฟัน จึงดูสวยกว่า
  • อุดฟันกลาสไอโอโนเมอร์ (Glass Lonomer) วัสดุกลาสไอโอโนเมอร์ที่สีเหมือนฟัน

5. การขูดหินปูน

การขจัดคราบหินปูนเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่มีความสำคัญสำหรับทุกช่วงวัย เพราะการสะสมของคราบหินปูนจะส่งผลให้เกิดปัญหาโรคเหงือกและฟันตามมาได้ ซึ่งทุกคนควรจะขูดหินปูนเป็นประจำอย่างน้อยทุก ๆ  6 เดือน

6. การเคลือบปิดหลุมร่องฟัน

การเคลือบปิดหลุมร่องฟันเป็นหนึ่งในทันตกรรมเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันผุ โดยการใช้วัสดุพอลิเมอร์ติดลงไปที่ร่องลึกด้านบนของฟันกราม ไม่ให้เศษอาหารเข้าไปติด ซึ่งจะสามารถทำได้ทั้งฟันน้ำนมและฟันแท้ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

7. การครอบฟันน้ำนม

ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาฟันผุด้วยการอุดฟันได้ จะทำการครอบฟันน้ำนมลงไปแทน เพื่อให้สามารถทำความสะอาดและใช้บดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่

  • ครอบฟันจากโลหะสแตนเลสสีเงิน 
  • ครอบฟันจากวัสดุอุดสีเหมือนฟัน
  • ครอบฟันจากเซรามิกสีเหมือนฟัน
  • ครอบฟันจากโลหะสแตนเลส ด้านในสีเงินและด้านนอกสีขาว

8. การรักษารากฟันน้ำนม

การรักษารากฟันน้ำนมเป็นวิธีการรักษารากฟันผุที่ลึกถึงโพรงประสาท เพราะเชื้อโรคลุกลามเข้าไปสู่ส่วนของโพรงรากฟันแล้ว แต่หากถอนออกไปจะทำให้เกิดปัญหาฟันห่าง ฟันล้ม หรือฟันเคลื่อนตัวได้ จึงต้องทำการรักษารากฟันเพราะรอฟันแท้ขึ้นมาแทนที่

9. การใส่เครื่องมือป้องกันฟันล้ม

ในกรณีที่มีการสูญเสียฟันน้ำนมก่อนที่ฟันแท้จะขึ้นมา จะทำการรักษาโดยใส่เครื่องมือป้องกันฟันล้ม ซึ่งจะมีทั้งแบบใช้เครื่องมือติดแน่นและแบบถอดออกได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันน้ำนมเคลื่อนที่เข้าหากัน จนฟันแท้ในตำแหน่งนั้นไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติ

บทสรุป

ปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก หากปล่อยไว้โดยไม่รีบทำการรักษาในทันที ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพภายในช่องปากมากขึ้น และจะส่งผลไปยังสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย พ่อแม่หรือผู้ปกครองทุกคนจึงควรใส่ใจกับสุขภาพช่องปากและฟันของลูก โดยการปลูกฝังเรื่องการดุแล ทำความสะอาดภายในช่องปาก พามาพบหมอฟันอย่างสม่ำเสมอ และควรจะเลือกคลินิกทันตกรรมที่มีบริการทันตกรรมสำหรับเด็กโดยเฉพาะด้วย

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่กำลังมองหา คลินิกทันตกรรมสำหรับทำฟันเด็ก หรือช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันสำหรับเด็ก คลินิกทันตกรรมสุขสันต์สไมล์ เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับการรักษาสุขอนามัยภายในช่องปากสำหรับคนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เนื่องจากเป็นคลินิกที่มีบริการทางทันตกรรมครบวงจร

ทพ. ปุณณวิชช์ เจียมใจสว่างฤกษ์
ทพ. ปุณณวิชช์ เจียมใจสว่างฤกษ์

ผู้เชี่ยวชาญด้าน ทันตกรรมประดิษฐ์ ทันตกรรมรากเทียม จัดฟันใส จัดฟันโลหะ วีเนียร์เซรามิก และเป็นผู้บริหารคลินิก SuksanSmilePlus

Share This Post

Share on facebook
Share on linkedin
Share on twitter
Share on email
Related Post: