การรักษาสุขอนามัยทางทันตกรรมที่เหมาะสมคือสิ่งที่ดีที่สุดในการรักษาฟันให้แข็งแรง แต่ก็มีหลายคนละเลยที่จะดูแลฟันทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ จดทำให้เกิดการสูญเสียฟัน รวมถึงการประสบอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดหลุด ฟันแตก หรือฟันบิ่น ที่สามารถรักษาด้วยการครอปฟันได้ อย่างไรก็ตามบางคนก็มีฟันผุขั้นรุนแรงจนถึงขั้นที่คุณอาจต้องสวมครอบฟันเพื่อทดแทนฟันจริง ๆ ที่ไม่สามารถรักษาด้วยการอุดฟัน การครอบฟันคือวิธีการแก้ไขซ่อมแซมฟันที่เหมาะสมสำหรับแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างที่มีให้บริการใน คลินิกทันตกรรมสุขสันต์สไมล์
สำหรับการครอบฟันถือเป็นการสร้างฟันขึ้นมาใหม่ ที่ใส่ไปบนฟันแท้เพื่อให้สามารถใช้งานได้เป็นปกติ แต่ด้วยความที่เป็นฟันที่สร้างขึ้นมาใหม่ หลายคนอาจจะเป็นกังวลว่า ครอบฟัน อยู่ได้นานขนาดไหน และจะมีวิธีการดูแลรักษาอย่างไรไปดูกันเลย
ครอบฟันรักษาอะไร และครอบฟัน อยู่ได้นานขนาดไหน ?
ครอบฟัน เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ช่วยบูรณะฟันที่เกิดความเสียหายให้กลับมาสวยงาม และใช้งานได้ โดยทันตแพทย์จะสร้างจากวัสดุสีเหมือนฟันที่คนไข้เลือกทำเป็น “ฝาครอบ” ที่ครอบฟัน ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาฟันและเป็นเกราะป้องกันฟันของคุณ ส่วนใหญ่แล้ววัสดุที่ใช้ในการทำครอบฟันจะมีอยู่ 5 ชนิด นั้นก็คือ
- ครอบฟันที่ทำมาจากโลหะล้วน (Full Metal Crown: FMC)
- ครอบฟันที่ทำมาจากเรซิน (All-Resin Crown)
- ครอบฟันที่ทำมาจากโลหะเคลือบเซรามิก (Porcelain-Fused-to-Metal Crown: PFM)
- ครอบฟันที่ทำมาจากเซรามิกล้วน (All-Ceramic Crown: ACC)
- ครอบฟันที่ทำมาจากสแตนเลสสตีล (Stainless Steel Crown: SSC)
ซึ่งวัสดุทั้งหมดที่ใช้ในการทำครอบฟันจะสามารถขึ้นรูปร่างฟันที่เหมือนกับฟันของเราจริง ๆ มีความแข็งแรงมาก ๆ ที่สามารถใช้งานได้นาน และหากอยากรู้ว่า ครอบฟัน อยู่ได้นานขนาดไหน บอกเลยว่าอยู่ได้นาน 5-8 ปี ซึ่งส่วนใหญ่จะกลับมาเปลี่ยนครอบฟันใหม่เพราะเกิดจากความเสียหายที่ไม่ได้ดูแลเป็นอย่างดี หากคนไข้ที่ดูฟันและครอบฟันเป็นอย่างดี ครอบฟันของคนไข้อาจจะอยู่ได้นานเป็น 10 ปีก็ยังได้
บทความที่เกี่ยวข้อง อุดฟันมีกี่แบบ เจ็บไหม ราคาเท่าไหร่
อายุเฉลี่ยของครอบฟันที่ใช้รักษาคนไข้
อยากที่บอกไปครอบฟันควรมีอายุการใช้งานประมาณ 15 ปีหากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม หากคนไข้ดูแลรักษาครอบฟันและช่องปากอย่างดี อาจจะสามารถอยู่ได้นานถึง 30 ปีโดยที่ครอบฟันอาจจะมีการเปลี่ยนสีไปบ้างแต่ก็อยู่ในสภาพที่ดีอยู่ แต่ในบางวัสดุครอบฟันอย่าง “พอร์ซเลน” สามารถมีอายุได้ตั้งแต่ 5 ถึง 15 ปี อายุเฉลี่ยของการใช้งานครอบฟันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงปริมาณการสึกหรอของครอบฟันที่เกิดขึ้น การดูแลช่องปากของคนไข้และการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำด้วย
ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของครอบฟัน ?
การดูแลฟันเป็นอย่างดีนั้นมีผลต่ออายุของครอบฟันให้สามารถอยู่ได้นานยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคนไข้ทุกคนจะต้องรู้เอาไว้ว่ามีอีกหลายปัจจุบันที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของครอบฟันที่จะทำให้มีอายุการใช้งานที่ลดลงดังนี้
- การบดหรือกัดฟันที่รุนแรงอาจทำให้ฟันเสียหายได้ โดยเฉพาะคนที่นอนกัดฟันยามกลางคืนที่ไม่สามารถควบคุมได้ การปกป้องครอบฟันและฟันซี่อื่น ๆ ไม่ให้เกิดการเสียหายจากการนอนกัดฟันจะต้องปรึกษากับทันตแพทย์ นอกจากนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการกระทืบน้ำแข็งและอาหารแข็งด้วย
- สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดี การละเลยกิจวัตรการดูแลช่องปากหรือการไม่ใส่ใจอาจทำให้ครอบฟัน ส่งผลให้ครอบฟันหลุดก่อนกำหนดได้ง่าย ฟันทุกซี่ของคุณจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และฟันผุสามารถเกิดขึ้นได้ในโครงสร้างฟันตามธรรมชาติใต้ครอบฟันได้
- วัสดุที่ใช้มีผลต่ออายุของครอบฟันเช่นกัน หากครอบฟันทำจากโลหะแน่นอนว่ามีความทนทานมากกว่าพอร์ซเลนและเซรามิกสำหรับครอบฟัน แต่อย่างไรก็ตามพอร์ซเลนเป็นที่นิยมใช้กันมากขึ้น โดยเฉพาะกับฟันหน้า เพราะมีความสวยงามสีเหมือนฟันธรรมชาติ
บทความที่เกี่ยวข้อง เกิดอุบัติเหตุหันหัก 1 ซี่ รักษาให้ฟันกลับมาใช้งานได้ปกติทำไงดี
การดูแลครอบฟันให้อยู่ได้นาน ๆ ควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง ?
เพื่อยืดอายุการใช้งานของครอบฟัน คนไข้ที่ทำการครอบฟันจะต้องหลีกเลี่ยงนิสัยที่มีผลกระทบต่อครอบฟันโดยตรง และต้องมีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีเยี่ยมและใส่ใจในทุก ๆ วัน คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้ครอบฟันของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
1. เลิกนิสัย และกินอาหารที่ต้องกัดต้องเคี้ยวเยอะ ๆ
แน่นอนว่าการกัดเล็บถือเป็นนิสัยที่ไม่ดี และทำให้เราเสียบุคลิกภาพมาก ๆ และยังเป็นอันตรายต่อครอบฟันอีกด้วย หรือใครที่ชอบกัดวัตถุแข็งใด ๆ ก็ตามอาจทำให้เคลือบฟันของฟันปกติสึกหรอได้ ถึงแม้ว่าคนไข้จะใช้วัสดุพอร์ซเลนเป็นวัสดุที่แข็งแรง ก็ไม่เหมาะกับการเคี้ยววัตถุแข็งซ้ำ ๆ เช่นกัน และการเคี้ยวน้ำแข็งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจส่งผลต่ออายุขัยของครอบฟันของคุณเช่นกัน ด้วยความที่มีความเย็นและความแข็งทำให้ง่ายต่อการเกิดครอบฟันแตกหัก
2. หลีกเลี่ยงการกัดฟันในเวลานอน
การกัดเวลานอนเป็นภาวะทางการแพทย์ที่เรียกว่าการนอนกัดฟัน โดยปกติแล้วจะเป็นผลมาจากความเครียดหรือทางเดินหายใจอุดตันระหว่างการนอนหลับ การนอนกัดฟันอาจสร้างความเสียหายให้กับครอบฟันของคุณได้ ปัจจุบันมีหลายวิธีในการรักษาอาการกัดฟัน เช่น ใส่เฝือกสบฟัน (occlusal splint) เพื่อป้องกันฟันสึก ฟันแตก ฟันหัก หรือจะรักษาด้วยการจัดฟันก็สามารถช่วยเรื่องของการนอนจัดฟันได้ หรือการใส่ยางกัดฟัน
3. การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน
การมีสุขอนามัยในช่องปากที่ดีเริ่มต้นด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน คนไข้ใครใส่ใจในการดูแลครอบฟันเสมือนว่าเป็นฟันธรรมชาติ และเข้ามาตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน อย่างไรก็ตามควรแปรงครอบฟันเพื่อกำจัดแบคทีเรียให้ได้มากที่สุด การใช้ไหมขัดฟันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพเหงือก และครอบฟรีมาก ๆ
สรุป
ครอบฟันเป็นวิธีการแก้ปัญหาทางทันตกรรมที่ช่วยให้ฟันที่เสียหายกลับมาสวยงามเหมือนกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ช่วยคืนรอยยิ้มของคนไข้และช่วยให้ฟื้นฟูความมั่นใจ อย่างไรก็ตามการดูแลอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มีอายุยืนยาวมาก ๆ โดยส่วนใหญ่ทันตแพทย์มักจะบอกคนไข้ว่าการครอบฟันจะมีอายุการใช้งาน 5-8 ปี หรือหากมีการดูแลรักษาเป็นอยากดีก็สามารถอยู่ได้มากกว่า 15 ปีแน่นอน แต่อย่าลืมรักษาสุขอนามัยช่องปากที่ดี เช่น การแปรงฟันวันละสองครั้ง การใช้ไหมขัดฟันทุกวัน และหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งหรือเหนียวที่อาจทำลายครอบฟันได้